เมนูบริการ

 

 
 สถิติวันนี้ 27 คน
 สถิติเมื่อวาน 26 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
1393 คน
10414 คน
260454 คน
เริ่มเมื่อ 2015-04-14

 

                                                              
เคล็ดวิชาฝึกศิษย์
กิร ดังได้สดับมา
         ในวัดมหายานแห่งหนึ่ง มีลูกศิษย์มาขออยู่ในสำนักศึกษาเล่าเรียนกันมากเพราะเป็นสำนักที่มีชื่อเสียง ศิษย์แต่ละคนต่างก็แข่งขันกันศึกษา เพื่อจะได้จบแล้วกลับไปภูมิลำเนาทำมาหากินต่อไป แต่มีศิษย์อยู่คนหนึ่งเรียนก็ไม่เก่งแถมยังดื้อรั้นชอบหนีไปเที่ยว เท่านั้นยังไม่พอยังทำตัวเป็นอันธพาลเกเรเที่ยวไปก่อเรื่องกับวัยรุ่นนอกสำนักถึงกับถูกจับไปโรงพักจนหลวงพ่อต้องไปประกันตัวเป็นประจำ
        “คราวหน้าเธออย่าทำอย่างนี้อีกนะ ทำให้หลวงพ่อต้องขึ้นโรงพักไปด้วย” หลวงพ่อเตือน
        “ครับ ผมจะไม่ทำอีก” เขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ
        แต่ไม่นานก็ทำอย่างนั้นอีก จนเป็นที่เอือมระอาของศิษย์ทั้งหลาย แต่หลวงพ่อกลับดูแลใกล้ชิด ติดตามความเคลื่อนไหวตลอดเวลา แถมสั่งศิษย์รุ่นพี่เป็นหูเป็นตาแนะนำตักเตือนด้วย
        นานเป็นปีที่ศิษย์ทั้งหลายอึดอัดคับข้องใจ วันหนึ่งเห็นหลวงพ่ออยู่ว่างๆ นั่งจิบน้ำชาอยู่ห้องโถงแบบสบายๆ จึงพากันเข้าไปหา กราบพร้อมกันแล้วเรียนถามว่า
        “หลวงพ่อครับ ทำไมไม่ไล่ศิษย์คนนั้นไปเสีย ทำให้เขาอย่างใกล้ชิด ส่วนพวกผมหลวงพ่อไม่ค่อยดูแลแนะนำเท่าไหร่เลย หลวงพ่อคิดอย่างไรหรือครับ”
        หลวงพ่อตอบว่า “ลูกทุกคนฟังนะ ที่หลวงพ่อไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่พวกเธอนั้นเพราะพวกเธอเก่งกันแล้วทุกคน ขยันทุกคน มีความผิดชอบในการทำงาน เอาตัวรอดได้แล้ว จึงไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชกันมาก”
         หลวงพ่อจิบน้ำชาเว้นวรรคนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ
         “ส่วนเจ้าศิษย์ที่ทำให้หลวงพ่อและพวกเธอเดือดร้อนนั้น เขาน่าสงสารมากกว่าน่ารังเกียจ ยังไม่โต ยังพึ่งตัวเองไม่ได้ ยังรับผิดชอบตัวเองไม่เป็น ยังแยกแยะดีชั่วไม่ได้เหมือนพวกเธอ ถ้าหลวงพ่อไล่เขาออกไปเขาก็จะเอาตัวไม่รอด หรืออาจไปก่อเหตุก่อเรื่องถึงติดคุกติดตาราง หรือถูกฆ่าตายก็ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้หลวงพ่อจึงต้องเลี้ยงเขาเอาไว้ใกล้ตัว ยังปล่อยไม่ได้ ค่อยอบรมฝึกฝนไป แม้จะนานหน่อยก็คงจะพอทำให้เขาโตทั้งตัวและสติปัญญาได้อยู่ดอก พวกเธอก็อย่ารังเกียจเขาเลย คิดว่าเขาเป็นคนป่วยเป็นคนด้อยปัญญาก็แล้วกัน ช่วยให้เขาหายป่วยให้เขาฉลาดได้บุญด้วยนะ”
          ศิษย์ทุกคนได้ฟังเหตุผลของหลวงพ่อ ต่างพากันซาบซึ้งในเมตตาธรรมของหลวงพ่ออย่างสุดหัวใจ หลวงพ่อรักและห่วงใยลูกทุกคน จึงลุกขึ้นกราบหลวงพ่อพร้อมกันแล้วรับปากหลวงพ่อว่า
ต่อไปจะไม่รังเกียจเพื่อนศิษย์คนนั้นอีก
        เรื่องนี้สื่อความได้ว่า
ครูที่มีจิตวิญญาณเป็นครูย่อมไม่ทิ้งศิษย์ที่ยังด้อยกว่าเพื่อน
ย่อมเอาใจใส่ศิษย์เช่นนั้นเป็นพิเศษ
ขวนขวายหาวิธีฝึกฝนให้เขาเรียนรู้วิชาและชีวิต
พอที่จะเอาตัวรอดได้ในอนาคต
บางครั้งถึงกับฝืนใจลงโทษเฆี่ยนตีก็จำยอม
ด้วยพิจารณาเห็นว่า คนเรานั้นแม้จะมีความแตกต่างกัน
ทั้งเสรีระร่างกายและสติปัญญา
ตลอดถึงภูมิต้านทานด้านคุณธรรมก็จริง
แต่ก็สามารถพัฒนาให้เจริญได้ในระดับหนึ่ง
       เรื่องเช่นนี้ ครูจึงพึงตระหนักรู้แล้วให้ความรักความห่วงใยแก่ศิษย์โดยเหมาะสม โดยเฉพาะคนที่มีปมด้านใดด้านหนึ่งน้อยกว่าเพื่อน ควรได้รับความห่วงใยและดูแลเป็นพิเศษ มิใช่ประณามดุด่าให้ได้อาย หรือขับไล่ไสส่งให้พ้นไปจากตัว เพราะนั่นมิใช่วิธีแก้ปัญหาให้เขา แต่เป็นการปัดสวะให้พ้นจากตัวเองไปเท่านั้น ความรัก ความเอ็นดู ความดูแลเอาใจใส่และการฝึกฝนแนะนำเขาเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆเท่านั้นจึงจะสามารถช่วยให้เขารอดตัวได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่า ครูนั่นแหละที่ช่วยให้จำนวนอันธพาลตามท้องถนนหรือแหล่งมั่วสุมต่างๆเพิ่มขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์.
 

 

                                
                                           
  coopyright   ( c )  by  : pngoen.com      .วัดภูเงินวนาราม   ตำบลบ้านฝาย  อำเภอน้ำปาด   จังหวัดอุตรดิตถ์